สิวรักษายากใครต่อใครต่างก็ทราบกันทั้งนั้น ๆไม่งั้นคลินิกเกี่ยวกับการักษาผิวพรรณคงจะไม่มีออกมาเยอะแยะหลากหลายที่ บางคนลองใช้ dr.jill ก็แล้วก็ไม่หาย จนผู้ที่มีปัญหาสิวอย่างเราไม่ทราบว่าจะเข้ารักษาที่ไหนกันแล้ว แต่หากไม่มีเงินทองก็จะต้องหาหนทางในการที่จะรักษาวิธีอื่น ๆ แต่ส่วนมากการที่เราจะรักษาสิวที่คลินิกโดยมากจะจัดการในการที่จะหาหมอทั้งนั้นจึงได้ผล ดังนั้นลองมาดูหนทางในการที่จะรักษาที่คลินิกและสถาบันรักษาปัญหาสิวทั้งหลายทั้งปวง ดังนั้นลองมาดูแนวทางในการรักษาสิวของแต่ละสถานที่กันดีกว่า
กรณีที่ 1 สิวขึ้นไม่เยอะ มีความรุนแรงน้อย ส่วนมาจกจะสั่งจ่ายยาที่เป็นยาทาจากภายนอกมากกว่า ทาบริเวณที่เกิดสิว เช่น ยาทาหัวสิวให้หยุบ ยาละลายสิวอุดตัน หรือยาลดการเกิดใหม่ของสิวทั้งหลาย
กรณีที่ 2 สิวขึ้นเยอะมาก มีความรุนแรงมากว่าปกติ การให้ยารักษามีหลายรูปแบบ ต้องพิจารณาจากระดับของความรุนแรงเป็นหลัก เช่น
- ยาฆ่าเชื้อแก้อักเสบ มีหลายกลุ่มมากมายเลย เช่น Doxyclcline และ Minocycline
- ยาควบคุมระดับฮอร์โมนหรือยาคุมกำเนิดสำหรับคนที่เกิดปัญหาสิวจากระดับฮอร์โมนมากว่าปกติ
- ยากลุ่มกรดวิตามินเอ ซึ่งมีคุณสมบัติในการลอกเซลล์ผิวได้ดี และทำให้ผิวทีเกิดสิวได้ผลัดเปลี่ยน
ต้องทำความเข้าใจเบื้องต้นเสียก่อนนะว่าสำหรับการที่เรานั้นจะใช้ยาในกลุ่มนี้รักษาย่อมที่จะมีผลข้างเคียงในการใช้ยารักษามากหรือว่าน้อยและระดับความรุนแรง อาการที่เกิดขึ้นจากผลข้างเคียงอาจจะมี การคลื่นไส้ วิงเวียน การ ตาแห้ง ปากแห้ง ก็มีได้ บางคนก็ใช้แล้วไมได้ผลสิวมากว่าเดิมก็ยังมีเลย ดังนั้นจะต้องทำใจในเรื่องนี้ นอกจาการที่คลินิกนั้นจะจะใช้ยาในการที่จะรักษาแล้วยังใช้หัตถการเอามาช่วยเช่น
1) การกดสิว และ การฉีดสิว ส่วนมากแล้วสำหรับการที่เราจะการกดสิวจะใช้ในกรณีสิวอุดตันมากไม่สามารถที่จะหยุบตัวเองด้วย ส่วนการที่เราจะทำการฉีดสิวจะใช้ในกรณีสิวอักเสบ เพื่อทำให้สิวยุบได้เร็วขึ้น จะสามารถที่จะใช้หัตถการเข้ามาช่วยในการที่จะทำให้สิวหยุบลงได้
2) การใช้กรดผลไม้ผลัดเซลล์ ส่วนมากกรดผลไม้พวกนี้ จะทำให้สิวอุดตันหายได้ และมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยลดรอยแผลเป็นซึ่งเกิดจากสิว
3) การรักษาด้วยแสงเลเซอร์ ทำแล้วได้ผลมากมายที่สุดแต่ราคาแพงมากที่สุด สามารถที่จะทำให้หายไวขึ้นและลดเรือนริ้วรอยได้อีกด้วย
|